สายสุดท้ายหลังเที่ยงคืน – เดอะโกสต์ เรดิโอ
ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนมักเป็นช่วงเวลาที่มักเกิดเรื่องราวหรือประสบการณ์ขนหัวลุกบ่อยครั้ง เนื่องจากบรรยากาศ ความเงียบ ความเปลี่ยว เช่นเดียวกับคุณโบนัส เจ้าของเรื่องเล่าที่เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในเรื่องที่ไม่ควรพลาดสำหรับแฟนๆ เดอะโกสต์ เรดิโอ อย่างเรื่อง สายสุดท้ายหลังเที่ยงคืน
เรื่องราวที่คุณโบนัสเจอเมื่อหลายปีก่อน หลังจากคุณโบนัสตัดสินใจไปช่วยงานรุ่นพี่ที่เปิดสถานบันเทิงอยู่ภาคใต้ คุณโฐนัสได้ทำหน้าที่เหมือนผู้จัดการร้านดูแลร้านแห่งนี้แทนเจ้าของ โดยมีอยู่คืนหนึ่ง ทางร้านมีกิจกรรมโดยมีจัดคอนเสิร์ตในร้านและมีการขายบัตรเข้าชมทำให้คืนนั้นวุ่นวายมาก และจนถึงเวลาตี 2 งานเลิกแล้ว คุณโบนัส พร้อมพนักงานอีก 2-3 คนยังอยู่ที่ร้านเพื่อเคลียของและทำความสะอาด ทันใดนั้นเอง กลับมาเสียงคล้ายกับอะไรลากพื้นสักอย่างด้วยความเงียบของช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน ทำให้ได้ยินเสียงชัดมาก จนทุกคนหยุด แล้วมองหาเสียงนั้น พร้อมๆกัน
จังหวะเดียวกันโทรศัพท์ของคุณโบนัสดัง ทำให้ทุกคนหลุดจากภวังค์ แล้วหันมาสนใจกับสายโทรศัพท์นี้แทน ปลายสายที่คุยกับคุณโบนัส เป็นเสียงของหญิงสาวที่เอ่ยขึ้นมาว่า “ พี่โบนัส หนูมีเรื่องให้ช่วย “ ทำให้คุณโบนัสตกใจว่าเวลานี้ใครกันจะมาขอความช่วยเหลือและเบอร์ก็ไม่รู้จัก คุณโบนัสจึงบอกปัดไปว่า วันนี้งานยุ่งเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ หญิงสาวตอบกลับทันที “ พี่สัญญาแล้วนะ “ ก่อนจะตัดสายไปและคืนต่อมาในเวลาเดิม ก็มีโทรศัพท์หลังเที่ยงคืน เกิดขึ้นกับคุณโบนัสอีกครั้ง เมื่อรับสาย หญิงสาวก็ถามว่า “ พี่จำหนูได้มั้ย ช่วยหนูหน่อย หนูเข้าบ้านไม่ได้ “ คุณโบนัสที่พึ่งนึกเหตุการณ์คืนเมื่อวานได้ ก็ตอบไปว่า ทำไมล่ะ หญิงสาวตอบกลับมาว่า “ พ่อแม่หนูไม่ให้เข้าบ้าน หนูไม่รู้จะไปทางไหน พี่ช่วยไปคุยกับพ่อแม่หนูหน่อยได้มั้ย”
คุณโบนัสจึงบอกให้หญิงสาวเข้ามาหาตนที่ร้านเพื่อพูดคุย แต่หญิงสาวปฏิเสธว่าไม่สามารถไปได้ โทรคุยได้อย่างเดียว หญิงสาวจึงบอกรายละเอียดที่อยู่ พร้อม ชื่อ นามสกุลของตน และ พ่อแม่อย่างละเอียด คุณโบนัสเลยตัดสินใจบอกกลับปลายสายไปว่า ขอเวลา 3-4 วันจะไปคุยให้ แต่หญิงสาวบอกว่า ไม่ทันนะ นานขนาดนั้น ก่อนจะวางสายไป และหลังจากวันนั้นคนรอบตัวก็เริ่มมองคุณโบนัสด้วยสายตาแปลกๆ บ้างก็เห็นคุณโบนัสไม่ได้อยู่คนเดียว จนคุณโบนัสเริ่มแปลกใจ รวมถึงคุณโบนัสก็เริ่มรู้สึกเนื่องจาก เคยได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงเดินอยู่รอบตัวขณะนอนหลับ จนล่วงเลยมา 3-4 วัน
โทรศัพท์ของคุณโบนัสก็ดังขึ้นอีกครั้งหลังเที่ยงคืน และถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ เมื่อไหร่พี่จะไปบ้านหนูสักที หนูจะเข้บ้านไม่ได้แล้ว “ และกรี๊ดเหมือนคนเสียสติ แต่เสียงกลับไม่ได้ออกจากโทรศัพท์ต้นเสียงกลับอยู่หลังคุณโบนัส เสียงนั้นได้ยินทั้งร้านด้วยความเงียบ ทุกคนจึงเข้ามาและแน่ใจว่าเสียงมาจากในร้านนี้แน่นอน ก่อนที่ทุกคนจะตัดสินใจไปบ้านของหญิงสาวในวันรุ่งขึ้น ระหว่างทางคุณโบนัสพยายามโทรไปเบอร์นี้ตลอดแต่ก็ไม่ติด ก่อนที่จะถึงก็มีคนรับสายแต่คราวนี้เป็นเสียงผู้ชาย คุณโบนัสจึงบอกว่าผู้หญิงชื่อนี้ ได้โทรมาหาตน แต่ปลายสายยืนยันว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ลูกสาวเขาตายไปแล้ว
และที่เขารับเพราะเสียงโทรศัพท์ มันดังอยู่ในโรงศพ บรรยากาศในรถเงียบกริบ จนมาถึงบ้านจุดหมาย พ่อของหญิงสาวจึงพาไปวัด แล้วก็พบงานศพที่ชื่อ นามสกุล ตรงกับที่หญิงสาวบอกคุณโบนัสจริงๆ คุณพ่อจึงเล่าให้ฟังว่า น้องเกิดอุบัติเหตุในคืนที่ทางร้านมีคอนเสิร์ตตัวน้องได้จองตั๋วและเดินทางไปเอาช่วงเย็น ระหว่างทางจะไปรับเพื่อน ก็เกิดอุบัติเหตุห่างจากตัวร้านไม่ไกล คุณพ่อได้มาเคลียเรื่องศพและยืนยันว่า ได้อัญเชิญดวงวิญญาณน้องจากโรงพยาบาลกลับมาที่บ้านแล้ว
ทางคุณโบนัสมั่นใจว่าน้องยังไม่ได้กลับบ้านจึงชวนให้พ่อไปเชิญวิญาณจากที่เกิดเหตุ และโทรศัพท์ของน้องก็มีสายโทรออกสุดท้ายเป็นสายของคุณโบนัส ในคืนที่มีคอนเสิร์ตและไม่ปรากฏการโทรออกหลังจากนั้นเลย แต่ในโทรศัพท์คุณโบนัสกับขึ้นเบอร์นี้โทรเข้ามาจริงๆ หลังจากเสร็จพิธี คุณโบนัส ก็ไม่มีสายโทรศัพท์หลังเที่ยงคืนโทรมาอีกเลย อาจจะเพราะ จิตสุดท้ายของผู้หญิงคนนี้ได้ติดต่อกับคุณโบนัสก่อนเสียชีวิต จึงทำให้คุณโบนัสเป็นคนเดียวที่จะช่วยเธอได้ หลังจากกลับมาที่ร้านคุณโบนัสได้ถามพนักงานที่ร้านและคนรอบตัวถึงคนที่เห็นว่าตามคุณโบนัสลักษณะเป็นยังไง ทุกคนพูดเหมือนกัน และตรงกับรูปที่คุณโบนัสเห็นที่งาน
