กุมารทอง ความเชื่อของคนโบราณ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นยุคไหนสมัยไหน ชาวไทยทั้งหลายยังคงมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์มาโดยตลอด หล่อหลอมความเชื่อ สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แม้ว่าปัจจุบันวิวัฒนาการของโลกเราจะก้าวไกลไปสักเพียงไหน แต่ต้องยอมรับว่าคนบางส่วนยังคงยึดติดกับความเชื่อทางไสยศาสตร์เหมือนเช่นเดิม สำหรับความเชื่อทางไสยศาสตร์ภายในประเทศไทย แบ่งออกเป็นหลายสิ่งหลายอย่างด้วยกัน โดยบทความนี้ทางเราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักเกี่ยวกับความเชื่อของ “กุมารทอง” ซึ่งมั่นใจว่าหลายต่อหลายคนน่าจะมีความคุ้นเคยกับความเชื่อดังกล่าวกันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย
แน่นอนว่าเมื่อกล่าวถึง “กุมารทอง” เพื่อนๆ ทั้งหลายอาจจะเกิดอาการหวาดกลัวหรือวังเวงอยู่บ้างเล็กน้อย บางคนอาจจะเคยเห็น “กุมารทอง” ผ่านทางสื่อโทรทัศน์และภาพยนตร์เรื่องต่างๆ มาค่อนข้างเยอะ อันที่จริงแล้วสื่อบันเทิงของบ้านเราก็อ้างอิงตัวละคร อย่าง “กุมารทอง” มาจากความเชื่อของคนยุคโบราณนั่นเอง โดยลักษณะจะเป็นวิญญาณของเด็กผู้ชาย ถูกเจ้าของบางคนเลี้ยงเอาไว้เพื่อนำมาใช้งานบางสิ่งบางอย่าง แต่หากว่าเป็นวิญญาณของเด็กผู้หญิง จะถูกเจ้าของเรียกด้วยชื่อ “โหงพราย” แทน อย่างไรก็ตามทั้ง “กุมารทอง” และ “โหงพราย” ย่อมต้องถูกเจ้าของเลี้ยงเอาไว้เพื่อนำมาใช้ประโยชน์บางประการในที่สุด
เพื่อนๆ อาจจะเกิดความสงสัยกันพอสมควรว่าวิญญาณเด็ก อย่าง “กุมารทอง” มีความเป็นมาแบบไหน ทำไมพวกวิญญาณเด็กเหล่านั้นถึงกลายมาเป็นเช่นนี้ จากการสืบค้นข้อมูลจากหลากหลายแหล่งพบว่าแรกเริ่มเดิมที “กุมารทอง” เป็นวิญญาณของเด็กตายในท้องแม่ หรือเรียกกันว่า “ตายทั้งกลม” ทางด้านของผู้คลั่งไคล้เกี่ยวกับไสยศาสตร์จึงมีการนำพาวิญญาณของเด็กๆ เหล่านั้นมาเลี้ยงเอาไว้เป็นลูก โดยผู้มีวิชาอาคมจะต้องพยายามหาศพที่ตายทั้งกลม มาประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์จนกลายมาเป็น “กุมารทอง” ในที่สุด หลังจากวิญญาณเด็กถูกผ่านพิธีกรรมทางไสยศาสตร์มาเรียบร้อยแล้ว จะต้องถูกดูแลจากเจ้าของคนใหม่ทันที ซึ่งคนพวกนั้นจะใช้งานในทางที่ดีหรือร้ายก็สุดแล้วแต่
ปัจจุบันในปี 2021 ชาวไทยจำนวนไม่น้อยต่อต้านความเชื่อโบราณคร่ำครึกเช่นนี้ สังคมไทยเกิดวิวัฒนาการมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น หากคนไหนกระทำการขโมยศพของเด็กตายทั้งกลมมาทำพิธีกรรมเฉกเช่นในอดีตย่อมต้องได้รับบทลงโทษทางกฎหมายอย่างสาหัสสากรรจ์แน่นอน เอาเป็นว่าบุคคลเหล่านั้นมีสิทธิ์ติดคุกหัวโตกันเลยทีเดียว ทางด้านของผู้มีวิชาอาคมทั้งหลายจึงพยายามดัดแปลงวิธีการสร้าง “กุมารทอง” ด้วยวิธีการแบบใหม่ทดแทน ประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ดินเจ็ดป่าช้า ไม้รักซ้อน ไม้มะยม หรือโลหะ เป็นต้น
